คิด "ในอก" กรอบ
ผมตั้งชื่อหัวข้อให้มันบ้าบอไปอย่างนั้นเองแหละ ... 😋 ... แต่ด้วยความกังวลว่า อาจจะมีคนเก่งภาษาไทยหลงเข้าใจว่าผมสะกดผิด ... เก้าะ ...เลยตัดสินใจใส่เครื่องหมาย "อัญประกาศ" ครอบคำ "ในอก" เอาไว้ซะ เพื่อจะสื่อให้เข้าใจตรงกันว่า ผม "ตั้งใจ" จะสะกดคำออกมาให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ !!?? ... 😃
ช่วงหลายปีหลังๆ มานี้ ผมสังเกตว่า มีคนไทยหลายคนกำลัง "บ้าเห่อ" แนวคิด "สิทธิเสรีภาพมหานิยมในอุดมคติอันเลื่อนเปื้อน" ตามแบบอย่างของฝรั่งต่างกาละ-เทศะหนักข้อขึ้นทุกที ... โดยต้องขอย้ำว่า เป็น "การตามแบบ" แนวคิดของเขามา อย่างไม่มีการคิดต่อยอดใดๆ ให้สมกับ "ความมีอิสรภาพที่แท้จริง" เลยซักนิดเดียว ... ซึ่งดูแล้วทุเรศมากหากจะเรียกคนเหล่านี้ว่า "นักคิด" หรือ "นักวิชาการ" อย่างที่สังคมเขาเรียกขานกัน !! ... ย้ำอีกครั้งว่า ... ".. ทุ .. เ .. ร .. ศ .. ม่ า ก .." !!!!!!!!!!!
ผมจำไม่ได้แล้วล่ะว่า คนไทยเอาวลี thinking outside the box มาแปลเป็นคำไทยว่า "การคิดนอกกรอบ" ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ด้วยเหตุที่มัน "ผสมพันธุ์" ได้อย่างลงตัวกับ "ความไร้ราก" ของสังคมไทยพอดิบพอดี การอ้าง "กลิ่นขี้ฟัน" ของฝรั่งด้วยถ้อยคำ "สิทธิส่วนบุคคล" และ "เสรีภาพในการคิดและการแสดงออก" จึงเบ่งบานใน "ช่องปาก" ของเหล่า "นักดัดจริต" ทั้งหลาย จนกลายเป็น "วาทกรรมทางสังคม" ที่นำไปสู่ "ความแตกแยก" ซึ่งยากจะแก้ไขในยุคปัจจุบัน เพราะต่างฝ่ายต่างก็ประเมิน "กรอบคิด" ของฝ่ายอื่นๆ ว่า ล้วน "ดักดาน" และ "ไม่สร้างสรรค์" เท่ากับ "ความไร้ราก" ที่ฝ่ายตนพยายามอวดอ้างใน "ความมีเสรีภาพอย่างยึดติด" อยู่ตลอดเวลา ??!! ... สังคมมันก็ต้องขัดแย้งอยู่แล้วล่ะครับ ก็ในเมื่อไอ้กลุ่มคนที่ถ่มเถียงกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียดเหล่านั้น มัน "ขัดแย้งในตัวเอง" มาตั้งแต่แรก ... นี่หว่า !!?? ... รึไม่ใช่ ??!!
จะว่าไปแล้ว ผมเองก็ไม่ได้ฝักใฝ่ในจารีตประเพณีอะไรนักหรอก ออกจะขวางๆ แกว่งๆ หรือ "กวนตีน" ในระดับที่พอใช้ได้อยู่เหมือนกัน ... 😃... แต่ผมก็ไม่เคยเห็นด้วยกับ "การคิดนอกกรอบ" ในความหมายที่สังคมไทย "ทึกทัก" ให้เหมาะกับ "จริตสันดานอันไร้ราก" ของเผ่าพันธุ์ตัวเอง ... ไม่มีความสร้างสรรค์ใดที่ไร้กรอบหรอกครับ เพราะข้อจำกัดทุกอย่างล้วนเป็นเชื้อชนวนที่จะก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เพื่อจะจรรโลงกฎระเบียบหนึ่งๆ ให้พอเหมาะพอสมแก่ "กาละ-เทศะ" ที่อาจจะผิดแผกแตกต่างไปจาก "กาละ-เทศะ" ที่กฎระเบียบนั้นๆ ถูกกำหนดขึ้นมา ... มันคือข้อแตกต่างระหว่างคำว่า "ยืดหยุ่น" กับ "หย่อนยาน" หรือคำว่า "ปรับปรุงแก้ไข" กับ "ทำลายล้าง" ... เราจะมีสังคมที่ยอมรับข้อแตกต่างของกันและกันได้ยังไง ในเมื่อต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมรับในสิ่งที่แตกต่างไปจาก "ความเชื่อ" ของตน ด้วยการ "ขีดเส้นแบ่ง" ให้เป็น "ในกรอบ" กับ "นอกกรอบ" อยู่อย่างนั้น ... ??!!! ... ย้ำอีกครั้งเลยนะครับว่า มันเป็น "ความเชื่อ" ที่ล้วนแล้วแต่ "สิ้นคิด" ทั้งสิ้น !!!!!!!!
แต่ก็มี "นักดัดจริต" จำนวนหนึ่ง ซึ่งแสดงพฤติกรรมที่ "อวดอ้างตัว" ว่า เป็น "นักคิดหัวก้าวหน้า" ด้วยการนำเสนอวาทกรรมที่เป็น "ปฏิปักษ์ต่อจารีต" แต่กลับเดือดแค้นเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อไม่ได้รับ "การยอมรับ" จากสังคมบางส่วน ... บ้าไปแล้วมั้ง ท่าน "ผู้ (แสร้ง) กล้า" ทั้งหลาย ??!!?? ... ทำไมจู่ๆ ถึงต้องลุกขึ้นมาเอะอะเรียกร้อง "ความยอมรับ" จาก "สังคมที่ตนปฏิเสธ" ด้วยเล่า ??!! ... หากมีความประสงค์ที่จะเป็น "ผู้กล้าอย่างแท้จริง" ทำไมถึงยังต้องกลัวต่อการเป็น "คนนอกของสังคม" ซะล่ะ ?! ... มันจะแปลกประหลาดอะไรนักหนา หากสังคมจะ "ปฏิเสธ" แนวคิดหรือบุคคล ที่ "ไม่เคยยอมรับ" ในพวกเขาเลย !!?? ... ผู้ที่บังอาจท้าทาย "กรอบคิดของสังคม" แต่กลับโหยหา "ความยอมรับ" จาก "สังคมที่ตนปฏิเสธ" นั้น เขาไม่เรียกว่า "คนใจกล้า" หรอก แต่ควรจะเรียกว่า "คนหน้าด้าน" ซะมากกว่า !! ... 😃
มีบางคนเคยกล่าวไว้ว่า การอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานทางความคิดที่แตกต่างกันนั้น ทุกๆ ฝ่ายจะต้องมี "จิตใจที่เปิดกว้าง" ใน "การรับรู้-รับฟัง" ทัศนคติที่แตกต่างไปจากของตนด้วย ... แต่มีใครรู้มั้ยล่ะว่า "กว้างแค่ไหนถึงจะเรียกว่ากว้าง ??!!" ... การที่ทุกฝ่ายยังมีทัศนคติที่จำแนกออกเป็น "เรา", เป็น "ผู้อื่น", เป็น "ในกรอบ", เป็น "นอกกรอบ", เป็น "จารีตนิยม", เป็น "เสรีนิยม", เป็น "พวกหัวก้าวหน้า", เป็น "พวกอนุรักษ์นิยมหัวเก่า", หรือเป็น "พวกหัวรุนแรง", ฯลฯ, อยู่อย่างนี้ ... มันก็คงจะเรียกว่า "กว้าง" ได้ลำบากเต็มทนแล้วล่ะ ... เพราะตราบใดก็ตามที่ในดวงความคิดของพวกเรา ยังมองเห็น "เส้นแบ่ง" ที่จำแนกฝ่ายหนึ่งออกจากอีกฝ่ายหนึ่ง ตราบนั้น ทุกๆ ฝ่ายก็ยังคง "คิดอยู่ในกรอบ" ที่เพียงแต่ "แตกต่างกัน" เท่านั้น และจะต้องวนเวียนอยู่กับ "วาทกรรมแห่งความขัดแย้ง" ที่ต่างฝ่ายต่างก็เยาะหยันใน "ความดักดาน" ของฝ่ายอื่นๆ ที่ไม่ยอมเปลี่ยนมา "ดักดาน" แบบเดียวกับฝ่ายของตนอยู่ร่ำไป ??!!
"คนฉลาดแสร้งโง่" หรือ "คนโง่แสร้งฉลาด" นั่นก็น่ารำคาญและน่ารังเกียจไปแบบหนึ่ง แต่ไอ้ประเภท "หน้าด้านแสร้งใจกล้า" นี่แหละที่มันทั้ง "โง่" และ "ทุเรศ" ในเวลาเดียวกันเลยว่ะ !!!??
Leave Comment